Skip to main content

กามาว​จร​มหา​กุศลจิต​ ๘

จิตดวงที่ ๑ : บทภาชนีย์
(กามาวจรกุศลจิต สหรคตด้วยโสมนัส
สัมปยุตด้วยญาณ : ผู้ที่ยังท่องเที่ยว​อยู่​ในกามภพที่เป็นกุศล​จิต​ไปด้วยกันกับโสมนัส​ ประกอบด้วย​ญาณ)​
[๑๖] ธรรมเป็นกุศล​ เป็น​ไฉน.
กามาวจรกุศลจิต สหรคตด้วยโสมนัส
สัมปยุตด้วยญาณ มีรูปเป็นอารมณ์ หรือ
มีเสียงเป็นอารมณ์ มีกลิ่นเป็นอารมณ์
มีรสเป็นอารมณ์ มีโผฏฐัพพะเป็นอารมณ์
มีธรรมเป็นอารมณ์​
หรือ​ปรารภ​อารมณ์​ใด​ๆ เกิดขึ้นในสมัยใด
กด​ 👉 ผัสสะ เวทนา สัญญา เจตนา จิต (๑๗-๒๑)
กด​ ​👉 วิตก วิจาร​ ปีติ สุข เอกัคคตา (๒๒-๒๖)
กด​ 👉 สัทธินทรีย์ วิริยินทรีย์ สตินทรีย์(๒๗-๓๔)
สมาธินทรีย์ ปัญญินทรีย์ มนินทรีย์
โสมนัส​สินทรีย์ ชีวิตินทรีย์
กด​ 👉 สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ (๓๕-๓๙)
สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ
กด​ 👉 สัทธาพละ วิริยพละ สติพละ (๔๐-๔๖)
สมาธิพละ ปัญญาพละ หิริพละ โอตตัปปพละ
กด​ 👉 อโลภ อโทสะ​ อโมหะ (๔๗-๔๙)
กด​ 👉 อนภิชฌา อัพยาปาทะ(๕๐-๕๔)
(สัมมาทิฏฐิ หิริ โอตตัปปะ)
กด​ 👉 กายปัสสัทธิ จิตตปัสสัทธิ(๕๕-๖๖)
กายลหุตา จิตตลหุตา
กายมุทุตา จิตตมุทุตา
กายกัมมัญญตา จิตตกัมมัญญตา
กายปาคุญญตา​ จิตตปาคุญญตา
กายุชุกตา จิตตุชุกตา
กด​ 👉 สติ สัมปชัญญะ สมถะ (๖๗-๗๒)
วิปัสสนา ปัคคาหะ อวิกเขปะ​ มีในสมัยนั้น
หรือนามธรรมที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด
มีอยู่ในสมัยนั้น.
สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล
[๗๓] หรือนามธรรมที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด
มีอยู่ในสมัยนั้น
สภาวธรรมเหล่านี้​ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล
ปทภาชนีย์ จบ
ปฐมภาณวาร จบ
โกฏฐาสวาร
[๗๔]
กด​ Link​👉 ก็ขันธ์​ ๔๗๕,(๘๙-๙๒)
กด​ Link​👉 อายตนะ ๒(๗๖,๙๓,๙๖)
กด​ Link​👉 ธาตุ ๒​ (๗๗,๙๕,๙๗)
กด​ Link​👉 อาหาร ๓ (๗๘)
กด​ Link​👉 อินทรีย์ ๘ (๗๙,๙๔)
กด​ Link​👉 ฌานมีองค์ ๕​ (๘๐)
กด​ Link​👉 มรรคมีองค์ ๕ (๘๑)
กด​ Link​👉 พละ ๗ (๘๒)
กด​ Link​👉 เหตุ ๓ (๘๓)
กด​ Link​ 👉 (๘๔-๘๘)
ผัสสะ ๑ เวทนา ๑ สัญญา ๑ เจตนา ๑ จิต ๑
เวทนาขันธ์ ๑​ สัญญาขันธ์ ๑​ สังขารขันธ์​ ๑
วิญญาณขันธ์​ ๑
มานายตนะ ๑ มนินทรีย์ ๑ มโนวิญญาณธาตุ ๑
ธัมมายตนะ ๑ ธรรมธาตุ ๑ มีในสมัยนั้น
หรือนามธรรมที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด
มีอยู่ในสมัยนั้น.
สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล
[๙๘] หรือนามธรรมที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด
มีอยู่ในสมัยนั้น.
สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล
                โกฏฐาสวาร​ จบ
                   -​--------------
สุญญตวาร [๙๙] ก็ธรรม ขันธ์ อายตนะ ธาตุ อาหาร
อินทรีย์ ฌาน มรรค พละ เหตุ
ผัสสะ เวทนา สัญญา เจตนา จิต
เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์
สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ มนายตนะ มนินทรีย์ ม​โนวิญญาณธาตุ
ธัมมายตนะ ธรรมธาตุ มีในสมัยนั้น
หรือนามธรรมที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด
มีอยู่ในสมัยนั้น.
สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล
กด​ Link​ ​👉 สูญญต​วาร (๑๐๐-๑๒๔)
สุญญตวาร จบ
จิตดวงที่ ๑ จบ
---------------
จิตดวงที่ ๒​ :
[๑๒๕] ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
กามาวจรกุศล​จิต สหครคตด้วยโสมนัส
สัมปยุตด้วยญาณ​ มีรูปเป็น​อารมณ์​ ฯลฯ
มีธรรมเป็นอารมณ์ หรือปรารภอารมณ์ใดๆ
เกิดขึ้นโดยมีการชักจูงในสมัยใด
ผัสสะ​ ฯลฯ​ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ
สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล ฯลฯ
จิตดวงที่ ๒ จบ
(อธิบาย : จิตดวงที่​ ๒​ ต่างกับ​ จิตดวงที่​ ๑​ )​
(ตรงที่เกิดขึ้นโดยมีการชักจูง​ เท่านั้น)​
---------------
จิตดวงที่ ๓​ :​
[๑๒๖] ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
กามาวจรกุศลจิต สหรคตด้วยโสมนัส
วิปปยุตจากญาณ มีรูปเป็นอารมณ์ ฯลฯ
มีธรรมเป็นอารมณ์​ หรือปรารภอารมณ์​ใดๆ
เกิดขึ้น ในสมัยใด
ผัสสะ เวทนา สัญญาเ​ จตนา จิต
วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา
สัทธินทรีย์ วิริยินทรีย์ สตินทรีย์ สมาธินทรีย์
มนินทรีย์ โสมนัสสินทรีย์ ชีวิตินทรีย์
สัมมาสังกัปปะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ สัทธาพละ วิริยพละ สติพละ สมาธิพละ
หิริพละ โอตตัปปพละ
อโลภะ อโทสะ อนภิชฌา อัพยาปาทะ หิริ โอตตัปปะ
กายปัสสัทธิ จิตตปัสสัทธิ
กายลหุตา จิตตลหุตา
กายมุทุตา​ จิตตมุทุตา
กายกัมมัญญตา จิตตกัมมัญญตา
กายปาคุญญตา จิตตปาคุญญตา
กายุชุกตา จิตตุชุกตา สติ สมถะ ปัคคาหะ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น
หรือนามธรรมที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด มีอยู่ในสมัยนั้น
สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล.
[๑๒๗] ก็ขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ ธาตุ ๒ อาหาร ๓
อินทรีย์ ๗ ฌานมีองค์ ๕ มรรค​มีองค์ ๔
พละ ๖ เหตุ ๒ ผัสสะ ๑ ฯลฯ
ธัมมายตนะ ๑ ธรรมธาตุ ๑
มีในสมัยนั้น หรือนามธรรม
ที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด มีอยู่ในสมัยนั้น สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล ฯลฯ
[๑๒๘] สังขารขันธ์ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? ผัสสะ เจตนา
วิตก วิจาร ปีติ เอกัคคตา
สัทธินทรีย์ วิริยินทรีย์ สตินทรีย์ สมาธินทรีย์ ชีวิตินทรีย์
สัมมาสังกัปปะ สัมมาวายามะ
สัมมาสติ สัมมาสมาธิ
สัทธาพละ​ วิริยพละ สติพละ
สมาธิพละ หิริพละ โอตตัปปพละ
อโลภะ อโทสะ อนภิชฌา
อัพยาปาทะ​ หิริ โอตตัปปะ
กายปัสสัทธิ จิตตปัสสัทธิ
กายลหุตา จิตตลหุตา
กายมุทุตา จิตตมุทุตา กายกัมมัญญตา จิตตกัมมัญญตา
กายปาคุญญตา จิตตปาคุญญตา
กายุชุกตา จิตตุชุกตา
สติ​ สมถะ ปัคคาหะ อวิกเขปะ
รือนามธรรมที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด
มีอยู่ในสมัยนั้น เว้น
เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ วิญญาณขันธ์
นี้ชื่อว่า สังขารขันธ์ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล ฯลฯ จิตดวงที่ ๓ จบ
-​-----------------
(อธิบาย​ : จิตดวงที่​ ๓​ ต่างจากจิตดวงที่​ ๑)
(ตรงที่วิปปยุตจากญาณ)
(อธิบาย​ : วิปปยุตจากญาณ​ จะไม่เกิดธรรมเหล่านี้​คือ​ ปัญญินทรีย์​ สัมมาทิฏฐิ​ 
ปัญญาพละ​ อโมหะ​ สัมปชัญญะ​ วิปัสสนา)​

จิตดวงที่ ๔​ :
[๑๒๙] ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
กามาวจรกุศล​จิต​ สหรคตด้วยโสมนัส
วิปปยุตจากญาณ มีรูปเป็นอารมณ์​ ฯลฯ​
มีธรรมเป็นอารมณ์ หรือปรารภอารมณ์ใดๆ
เกิดขึ้นโดยมีการชักจูง ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ​ อวิกเขปะ
มีในสมัยนั้น ฯลฯ
สภาวะธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล ฯลฯ
(อธิบาย​ : จิตดวงที่​ ๔​ ต่างกับ​ จิตดวงที่​ ๓ )​
(ตรงที่เกิดขึ้นโดยมีการชักจูง​ เท่านั้น)
จิตดวงที่ ๔ จบ
---------------
จิตดวงที่ ๕ :
[๑๓๐] ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
กามาวจรกุศล​จิต สหรคตด้วยอุเบกขา
สัมปยุตด้วยญาณ มีรูปเป็นอารมณ์ ฯลฯ
มีธรรมเป็นอารมณ์​ หรือปรารภอารมณ์ใดๆ
เกิดขึ้น ในสมัยใด
ผัสสะ เวทนา สัญญา เจตนา จิต
วิตก วิจาร​ อุเบกขา เอกัคคตา
สัทธินทรีย์ วิริยินทรีย์ สตินทรีย์
สมาธินทรีย์ ปัญญินทรีย์ มนินทรีย์
อุเบกขินทรีย์ ชีวิตินทรีย์
สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวายามะ
สัมมาสติ สัมมาสมาธิ สัทธาพละ วิริยพละ สติพละ
สมาธิพละ ปัญญาพละ หิริพละ โอตตัปปพละ
อโลภะ อโทสะ​ อโมหะ
อนภิชฌา อัพยาปาทะ สัมมาทิฏฐิ
หิริ โอตตัปปะ
กายปัสสัทธิ จิตตปัสสัทธิ กายลหุตา จิตตลหุตา
กายมุทุตา จิตตมุทุตา
กายกัมมัญญตา จิตตกัมมัญญตา
กายปาคุญญตา​ จิตตปาคุญญตา
กายุชุกตา จิตตุชุกตา
สติ สัมปชัญญะ สมถะ วิปัสสนา
ปัคคาหะ อวิกเขปะ​ มีในสมัยนั้น
หรือนามธรรมที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด
มีอยู่ในสมัยนั้น สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. [๑๓๑] ผัสสะ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? การกระทบ กิริยาที่กระทบ กิริยาที่ถูกต้อง
ความถูกต้องในสมัยนั้น อันใด
นี้ชื่อว่า​ ผัสสะ มีในสมัยนั้น
 เวทนา มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? ความสบายทางใจก็ไม่ใช่
ความไม่สบายทางใจก็ไม่ใช่
อันเกิดแต่สัมผัสแห่งมโนวิญญาณธาตุที่สมกัน
ความเสวยอารมณ์ที่ไม่ทุกข์ไม่สุข
อันเกิดแต่เจโตสัมผัส
กิริยาเสวยอารมณ์ที่ไม่ทุกข์ไม่สุข
อันเกิดแต่เจโตสัมผัส ในสมัยนั้น อันใด
นี้ชื่อว่า เวทนา มีในสมัยนั้น ฯลฯ อุเบกขา มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? ความสบายทางใจก็ไม่ใช่
ความไม่สบายทางใจก็ไม่ใช่
ความเสวยอารมณ์ที่ไม่ทุกข์ไม่สุข
อันเกิดแต่เจโตสัมผัส
กิริยาเสวยอารมณ์ที่ไม่ทุกข์ไม่สุข
อันเกิดแต่เจโตสัมผัส ในสมัยนั้นอันใด
นี้ชื่อว่า อุเบกขา มีในสมัยนั้น ฯลฯ
อุเบกขินทรีย์ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? ความสบายทางใจก็ไม่ใช่
ความไม่สบายทางใจก็ไม่ใช่
ความเสวยอารมณ์
ที่ไม่ทุกข์ไม่สุข อันเกิดแต่เจโตสัมผัส
กิริยาเสวยอารมณ์ที่ไม่ทุกข์ไม่สุข
อันเกิดแต่เจโตสัมผัส ในสมัยนั้นอันใด
นี้ชื่อว่า อุเบกขินทรีย์ มีในสมัยนั้น
หรือนามธรรมที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด มีอยู่ในสมัยนั้น สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. [๑๓๒] ก็ขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ ธาตุ ๒ อาหาร ๓
อินทรีย์ ๘ ฌานมีองค์ ๔​ มรรคมีองค์ ๕
พละ ๗ เหตุ ๓ ผัสสะ ๑ ฯลฯ ธัมมายตนะ ๑ ธรรมธาตุ ๑ มีในสมัยนั้น หรือนามธรรมที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด มีอยู่ในสมัยนั้น สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล ฯลฯ
[๑๓๓] สังขารขันธ์ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? ผัสสะ เจตนา วิตก วิจาร เอกัคคตา
สัทธินทรีย์ วิริยินทรีย์ สตินทรีย์
สมาธินทรีย์​ ปัญญินทรีย์ ชีวิตินทรีย์
สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวายามะ
สัมมาสติ สัมมาสมาธิ สัทธาพละ วิริยพละ สติพละ สมาธิพละ
ปัญญาพละ หิริพละ โอตตัปปพละ
อโลภะ​ อโทสะ อโมหะ
อนภิชฌา อัพยาปาทะ สัมมาทิฏฐิ
หิริ โอตตัปปะ
กายปัสสัทธิ จิตตปัสสัทธิ กายลหุตา จิตตลหุตา
กายมุทุตา จิตตมุทุตา
กายกัมมัญญตา จิตตกัมมัญญตา
กายปาคุญญตา​ จิตตปาคุญญตา
กายุชุกตา จิตตุชุกตา
สติ สัมปชัญญะ สมถะ วิปัสสนา
ปัคคาหะอวิกเขปะ
หรือนามธรรมที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด
มีอยู่ในสมัยนั้น เว้นเวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์
วิญญาณขันธ์
นี้ชื่อว่า สังขารขันธ์ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล ฯลฯ (อธิบาย​ : จิตดวงที่​ ๕​ ต่างกับ​ จิตดวงที่​ ๑)
จิตดวงที่​ ๑​ : (วิตก​ วิจาร​ ปิติ​ สุข​ เอกัคคตา)
จิตดวงที่​ ๕​ :​ (วิตก​ วิจาร​ อุเบกขา​ เอกัคคตา)
จิตดวงที่​ ๑​ :​ (โสมนัส​สินทรี​ย์)
จิตดวงที่​ ๕​ : (อุเบกขินทรีย์)
จิตดวงที่ ๕ จบ
---------------
จิตดวงที่​ ๖​ :
[๑๓๔] ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
กามาวจรกุศลจิต สหรคตด้วยอุเบกขา
สัมปยุตด้วยญาณ มีรูปเป็นอารมณ์ ฯลฯ
มีธรรมเป็นอารมณ์ หรือปรารภอารมณ์ใดๆ
เกิดขึ้นโดยมีการชักจูง ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ​ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล ฯลฯ
(อธิบาย​ : จิตดวงที่​ ๖​ ต่างกับ​ จิตดวงที่​ ๕ )​
(ตรงที่เกิดขึ้นโดยมีการชักจูง​ เท่านั้น)
จิตดวงที่ ๖ จบ ---------- จิตดวงที่ ๗ [๑๓๕] ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน? กามาวจรกุศลจิต สหรคตด้วยอุเบกขา
วิปปยุตจากญาณ มีรูปเป็นอารมณ์ ฯลฯ
มีธรรมเป็นอารมณ์ หรือปรารภอารมณ์ใดๆ
เกิดขึ้นในสมัยใด
ผัสสะ เวทนา สัญญา เจตนา​ จิต
วิตก วิจาร อุเบกขา เอกัคคตา
สัทธินทรีย์ วิริยินทรีย์ สตินทรีย์ สมาธินทรีย์ มนินทรีย์ อุเบกขินทรีย์ ชีวิตินทรีย์
สัมมาสังกัปปะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ สัทธาพละ วิริยพละ สติพละ
สมาธิพละ หิริพละ โอตตัปปพละ
อโลภะ อโทสะ
อนภิชฌา อัพยาปาทะ หิริ โอตตัปปะ
กายปัสสัทธิ จิตตปัสสัทธิ กายลหุตา จิตตลหุตา กายมุทุตา จิตตมุทุตา
กายกัมมัญญตา จิตตกัมมัญญตา
กายปาคุญญตา จิตตปาคุญญตา กายุชุกตา จิตตุชุกตา
สติ สมถะ ปัคคาหะ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น
หรือนามธรรม​ ที่​อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด
มีอยู่ในสมัยนั้น. สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล ฯลฯ
[๑๓๖] ก็ขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ ธาตุ ๒ อาหาร ๓
อินทรีย์ ๗ ฌานมีองค์ ๔​ มรรคมีองค์ ๔
พละ ๖ เหตุ ๒ ผัสสะ ๑ ฯลฯ
ธัมมายตนะ ๑ ธรรมธาตุ ๑ มีในสมัยนั้น
หรือนามธรรมที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด
มีอยู่ในสมัยนั้น สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล ฯลฯ [๑๓๗] สังขารขันธ์ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? ผัสสะ เจตนา
วิตก วิจาร เอกัคคตา
สัทธินทรีย์ วิริยินทรีย์ สตินทรีย์ สมาธินทรีย์ ชีวิตินทรีย์
สัมมาสังกัปปะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ สัทธาพละ​ วิริยพละ สติพละ
สมาธิพละ หิริพละ โอตตัปปพละ
อโลภะ อโทสะ อนภิชฌา​ อัพยาปาทะ
หิริ โอตตัปปะ กายปัสสัทธิ จิตตปัสสัทธิ
กายลหุตา จิตตลหุตา กายมุทุตา​ จิตตมุทุตา
กายกัมมัญญตา จิตตกัมมัญญตา
กายปาคุญญตา จิตตปาคุญญตา
กายุชุกตา​ จิตตุชุกตา สติ สมถะ ปัคคาหะ อวิกเขปะ หรือนามธรรมที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด
มีอยู่ในสมัยนั้น
เว้นเวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ วิญญาณขันธ์
นี้ชื่อว่า สังขารขันธ์ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล ฯลฯ
อธิบาย​ : จิตดวงที่​ ๗​ ต่างจากจิตดวงที่​ ๕
ตรงที่วิปปยุตจากญาณ
วิปปยุตจากญาณ​ : จะไม่เกิดธรรมเหล่านี้​คือ​ ปัญญินทรีย์​ สัมมาทิฏฐิ​ 
ปัญญาพละ​ อโมหะ​ สัมปชัญญะ​ วิปัสสนา
จิตดวงที่ ๗ จบ --------------- จิตดวงที่ ๘
[๑๓๘] ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
กามาวจรกุศลจิต สหรคตด้วยอุเบกขา
วิปปยุตจากญาณ มีรูปเป็นอารมณ์ ฯลฯ มีธรรมเป็นอารมณ์ หรือปรารภอารมณ์ใดๆ
เกิดขึ้นโดยมีการชักจูง ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ​ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล ฯลฯ จิตดวงที่ ๘ จบ กามาวจรมหากุศลจิต ๘ จบ ทุติยภาณวาร จบ ----------------
(อธิบาย​ : จิตดวงที่​ ๘​ ต่างกับ​ จิตดวงที่​ ๗)​
(ตรงที่เกิดขึ้นโดยมีการชักจูง​ เท่านั้น)