[๘๐] ฌานมีองค์ ๕ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน?
ฌาน(สหรคตด้วยโสมนัส) มีในสมัยนั้น เป็นไฉน?
วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา
นี้ชื่อว่า ฌาน มีในสมัยนั้น. (ฌาน ๕)
ฌาน(สหรคตด้วยอุเบกขา) มีในสมัยนั้น เป็นไฉน?
วิตก วิจาร อุเบกขา เอกัคคตา
นี้ชื่อว่า ฌาน มีในสมัยนั้น. (ฌาน ๔)
----------------------
[๒๒] วิตก มีในสมัยนั้น เป็นไฉน?
ความตรึก ความตรึกอย่างแรง ความดำริ ความที่จิตแนบอยู่ในอารมณ์ ความที่จิตแนบสนิท
อยู่ในอารมณ์ ความยกจิตขึ้นสู่อารมณ์
สัมมาสังกัปปะ
ในสมัยนั้น อันใด นี้ชื่อว่า วิตกมีในสมัยนั้น.
[๒๓] วิจาร มีในสมัยนั้น เป็นไฉน?
ความตรอง ความพิจารณา ความตามพิจารณา ความเข้าไปพิจารณา ความที่จิตสืบต่ออารมณ์
ความที่จิตเพ่งอารมณ์
ในสมัยนั้น อันใด นี้ชื่อว่า วิจารมีในสมัยนั้น.
[๒๔] ปีติ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน?
ความอิ่มใจ ความปราโมทย์ ความยินดียิ่ง
ความบันเทิง ความร่าเริง ความรื่นเริง
ความปลื้มใจ ความตื่นเต้น ความที่จิตชื่นชมยินดี
ในสมัยนั้น อันใด นี้ชื่อว่า ปีติมีในสมัยนั้น.
[๒๕] สุข มีในสมัยนั้น เป็นไฉน?
ความสบายทางใจ ความสุขทางใจ ความเสวยอารมณ์ที่สบายเป็นสุข อันเกิดแต่เจโตสัมผัส
กิริยาเสวยอารมณ์ที่สบายเป็นสุข
อันเกิดแต่เจโตสัมผัส
ในสมัยนั้น อันใด นี้ชื่อว่าสุขมีในสมัยนั้น.
อุเบกขา มีในสมัยนั้น เป็นไฉน?
ความสบายทางใจก็ไม่ใช่
ความไม่สบายทางใจก็ไม่ใช่
ความเสวยอารมณ์ ที่ไม่ทุกข์ไม่สุข
อันเกิดแต่เจโตสัมผัส
กิริยาเสวยอารมณ์ที่ไม่ทุกข์ไม่สุข
อันเกิดแต่เจโตสัมผัส
ในสมัยนั้นอันใด นี้ชื่อว่า อุเบกขา มีในสมัยนั้น
[๒๖] เอกัคคตา มีในสมัยนั้น เป็นไฉน?
ความตั้งอยู่แห่งจิต ความดำรงอยู่แห่งจิต
ความมั่นอยู่แห่งจิต ความไม่ส่ายไปแห่งจิต
ความไม่ฟุ้งซ่านแห่งจิต ภาวะที่จิตไม่ส่ายไป
ความสงบ สมาธินทรีย์ สมาธิพละ
สัมมาสมาธิ
ในสมัยนั้น อันใด นี้ชื่อว่า เอกัคคตา มีในสมัยนั้น.
(อธิบายถึง รูปวาจรกุศล กสิณ ที่เกี่ยวกับ ฌาน)
1. วิตก วิจาร มีปีติและสุขอันเกิดแต่วิเวกอยู่
2. ไม่มีวิตกวิจาร มีแต่ปีติและสุขอันเกิดจากสมาธิ
3. สุข เอกัคคตา(ผู้เพ่งโดยอุปบัติ
มีสติสัมปชัญญะอยู่ และเสวยสุขด้วยนามกาย)
4. อุเบกขา เอกัคคตา
(มีสติบริสุทธิ์เพราะอุเบกขาอยู่)
ฌาน(สหรคตด้วยโสมนัส) มีในสมัยนั้น เป็นไฉน?
วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา
นี้ชื่อว่า ฌาน มีในสมัยนั้น. (ฌาน ๕)
ฌาน(สหรคตด้วยอุเบกขา) มีในสมัยนั้น เป็นไฉน?
วิตก วิจาร อุเบกขา เอกัคคตา
นี้ชื่อว่า ฌาน มีในสมัยนั้น. (ฌาน ๔)
----------------------
[๒๒] วิตก มีในสมัยนั้น เป็นไฉน?
ความตรึก ความตรึกอย่างแรง ความดำริ ความที่จิตแนบอยู่ในอารมณ์ ความที่จิตแนบสนิท
อยู่ในอารมณ์ ความยกจิตขึ้นสู่อารมณ์
สัมมาสังกัปปะ
ในสมัยนั้น อันใด นี้ชื่อว่า วิตกมีในสมัยนั้น.
[๒๓] วิจาร มีในสมัยนั้น เป็นไฉน?
ความตรอง ความพิจารณา ความตามพิจารณา ความเข้าไปพิจารณา ความที่จิตสืบต่ออารมณ์
ความที่จิตเพ่งอารมณ์
ในสมัยนั้น อันใด นี้ชื่อว่า วิจารมีในสมัยนั้น.
[๒๔] ปีติ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน?
ความอิ่มใจ ความปราโมทย์ ความยินดียิ่ง
ความบันเทิง ความร่าเริง ความรื่นเริง
ความปลื้มใจ ความตื่นเต้น ความที่จิตชื่นชมยินดี
ในสมัยนั้น อันใด นี้ชื่อว่า ปีติมีในสมัยนั้น.
[๒๕] สุข มีในสมัยนั้น เป็นไฉน?
ความสบายทางใจ ความสุขทางใจ ความเสวยอารมณ์ที่สบายเป็นสุข อันเกิดแต่เจโตสัมผัส
กิริยาเสวยอารมณ์ที่สบายเป็นสุข
อันเกิดแต่เจโตสัมผัส
ในสมัยนั้น อันใด นี้ชื่อว่าสุขมีในสมัยนั้น.
อุเบกขา มีในสมัยนั้น เป็นไฉน?
ความสบายทางใจก็ไม่ใช่
ความไม่สบายทางใจก็ไม่ใช่
ความเสวยอารมณ์ ที่ไม่ทุกข์ไม่สุข
อันเกิดแต่เจโตสัมผัส
กิริยาเสวยอารมณ์ที่ไม่ทุกข์ไม่สุข
อันเกิดแต่เจโตสัมผัส
ในสมัยนั้นอันใด นี้ชื่อว่า อุเบกขา มีในสมัยนั้น
[๒๖] เอกัคคตา มีในสมัยนั้น เป็นไฉน?
ความตั้งอยู่แห่งจิต ความดำรงอยู่แห่งจิต
ความมั่นอยู่แห่งจิต ความไม่ส่ายไปแห่งจิต
ความไม่ฟุ้งซ่านแห่งจิต ภาวะที่จิตไม่ส่ายไป
ความสงบ สมาธินทรีย์ สมาธิพละ
สัมมาสมาธิ
ในสมัยนั้น อันใด นี้ชื่อว่า เอกัคคตา มีในสมัยนั้น.
(อธิบายถึง รูปวาจรกุศล กสิณ ที่เกี่ยวกับ ฌาน)
1. วิตก วิจาร มีปีติและสุขอันเกิดแต่วิเวกอยู่
2. ไม่มีวิตกวิจาร มีแต่ปีติและสุขอันเกิดจากสมาธิ
3. สุข เอกัคคตา(ผู้เพ่งโดยอุปบัติ
มีสติสัมปชัญญะอยู่ และเสวยสุขด้วยนามกาย)
4. อุเบกขา เอกัคคตา
(มีสติบริสุทธิ์เพราะอุเบกขาอยู่)