อสุภฌาน ๑๐
[๑๙๑] ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
โยคาวจรบุคคล เจริญมรรคปฏิปทาเพื่อเข้าถึงรูปภูมิ สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว
บรรลุปฐมฌาน ที่สหรคตด้วยอุทธุมาตกสัญญา ฯลฯ อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน? โยคาวจรบุคคล เจริญมรรคปฏิปทาเพื่อเข้าถึงรูปภูมิ สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว
บรรลุปฐมฌาน
ที่สหรคตด้วยวินีลกสัญญา ฯลฯ
ที่สหรคตด้วยวิปุพพกสัญญาฯลฯ
ที่สหรคตด้วยวิจฉิททกสัญญา ฯลฯ
ที่สหรคตด้วยวิกขายิตกสัญญา ฯลฯ
ที่สหรคตด้วยวิกขิตตกสัญญา ฯลฯ
ที่สหรคตด้วยหตวิกขิตตกสัญญา ฯลฯ
ที่สหรคตด้วยโลหิตกสัญญา ฯลฯ ที่สหรคตด้วยปุฬุวกสัญญา ฯลฯ
ที่สหรคตด้วยอัฏฐิกสัญญา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. อสุภฌานแจกอย่างละ ๑๖ รูปาวจรกุศล จบ --------------
โยคาวจรบุคคล เจริญมรรคปฏิปทาเพื่อเข้าถึงรูปภูมิ สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว
บรรลุปฐมฌาน ที่สหรคตด้วยอุทธุมาตกสัญญา ฯลฯ อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน? โยคาวจรบุคคล เจริญมรรคปฏิปทาเพื่อเข้าถึงรูปภูมิ สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว
บรรลุปฐมฌาน
ที่สหรคตด้วยวินีลกสัญญา ฯลฯ
ที่สหรคตด้วยวิปุพพกสัญญาฯลฯ
ที่สหรคตด้วยวิจฉิททกสัญญา ฯลฯ
ที่สหรคตด้วยวิกขายิตกสัญญา ฯลฯ
ที่สหรคตด้วยวิกขิตตกสัญญา ฯลฯ
ที่สหรคตด้วยหตวิกขิตตกสัญญา ฯลฯ
ที่สหรคตด้วยโลหิตกสัญญา ฯลฯ ที่สหรคตด้วยปุฬุวกสัญญา ฯลฯ
ที่สหรคตด้วยอัฏฐิกสัญญา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. อสุภฌานแจกอย่างละ ๑๖ รูปาวจรกุศล จบ --------------