โยคาวจรบุคคล
เจริญฌานเป็นโลกุตตระ
อันเป็นเครื่องออกไปจากโลกนำไปสู่นิพพาน เพื่อละทิฏฐิ เพื่อบรรลุภูมิเบื้องต้น สงัดจากกาม
สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว บรรลุปฐมฌาน
อธิบาย : ข้อความข้างบนนี้
จะใช้แทนด้วยอักษร A
มหานัย ๒๐
สุทธิกปฏิปทา
[๒๖๐] ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
A เป็น ทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ
สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. [๒๖๑] ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน? A เป็นทุกขาปฏิปทาขิปปาภิญญา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ
สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล.
[๒๖๒] ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน? A เป็น สุขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. [๒๖๓] ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
A เป็น สุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. [๒๖๔] ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
โยคาวจรบุคคล เจริญฌานเป็นโลกุตตระ
อันเป็นเครื่องออกไปจากโลกนำไปสู่นิพพาน เพื่อละทิฏฐิ เพื่อบรรลุภูมิเบื้องต้น
บรรลุทุติยฌาน ฯลฯ
บรรลุตติยฌาน ฯลฯ
บรรลุจตุตถฌาน ฯลฯ บรรลุปฐมฌาน ฯลฯ บรรลุปัญจมฌาน
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
เป็นทุกขาปฏิปทาขิปปาภิญญา ฯลฯ
เป็นสุขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา ฯลฯ อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. สุทธิกปฏิปทา จบ. ----------------
สุญญตะ
[๒๖๕] ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน? A ชนิดสุญญตะ ฯลฯ อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ
มีในสมัยนั้น ฯลฯ
สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
โยคาวจรบุคคล เจริญฌานเป็นโลกุตตระ
อันเป็นเครื่องออกไปจากโลกนำไปสู่นิพพาน เพื่อละทิฏฐิ เพื่อบรรลุภูมิเบื้องต้น
บรรลุทุติยฌาน ฯลฯ
บรรลุตติยฌาน ฯลฯ
บรรลุจตุตถฌาน บรรลุปฐมฌาน ฯลฯ
บรรลุปัญจมฌาน ชนิดสุญญตะ ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. สุญญตะ จบ.
--------------
สุญญตมูลกปฏิปทา
[๒๖๖] ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
A ชนิดสุญญตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล.
ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน? A ชนิดสุญญตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาขิปปาภิญญา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน? A ชนิดสุญญตะ
เป็นสุขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีอยู่ในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน? A ชนิดสุญญตะ
เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน? โยคาวจรบุคคล เจริญฌานเป็นโลกุตตระ
อันเป็นเครื่องออกไปจากโลกนำไปสู่นิพพาน เพื่อละทิฏฐิ เพื่อบรรลุภูมิเบื้องต้น
บรรลุทุติยฌาน ฯลฯ
บรรลุตติยฌาน ฯลฯ
บรรลุจตุตถฌาน ฯลฯ บรรลุปฐมฌาน ฯลฯ
บรรลุปัญจมฌาน ชนิดสุญญตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
ชนิดสุญญตะ ฯลฯ
เป็นทุกขาปฏิปทาขิปปาภิญญา ฯลฯ
ชนิดสุญญตะ
เป็นสุขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
ชนิดสุญญตะ
เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล สุญญตมูลกปฏิปทา จบ. ------------
อัปปณิหิตะ [๒๖๗] ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
A ชนิดอัปปณิหิตะ ฯลฯ อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน? โยคาวจรบุคคล เจริญฌานเป็นโลกุตตระ
อันเป็นเครื่องออกไปจากโลกนำไปสู่นิพพาน เพื่อละทิฏฐิ เพื่อบรรลุภูมิเบื้องต้น
บรรลุทุติยฌาน ฯลฯ
บรรลุตติยฌาน ฯลฯ
บรรลุจตุตถฌาน ฯลฯ
บรรลุปฐมฌาน ฯลฯ
บรรลุปัญจมฌาน ชนิดอัปปณิหิตะ ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. อัปปณิหิตะ จบ. -------------- อัปปณิหิตมูลกปฏิปทา [๒๖๘] ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
A ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน? A ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาขิปปาภิญญา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ
สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน? A ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นสุขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน? A ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน? โยคาวจรบุคคล เจริญฌานเป็นโลกุตตระ
อันเป็นเครื่องออกไปจากโลกนำไปสู่นิพพาน เพื่อละทิฏฐิ เพื่อบรรลุภูมิเบื้องต้น
บรรลุทุติยฌาน ฯลฯ
บรรลุตติยฌาน ฯลฯ
บรรลุจตุตถฌาน ฯลฯ
บรรลุปฐมฌาน ฯลฯ
บรรลุปัญจมฌาน ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาขิปปาภิญญา ฯลฯ
ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นสุขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. อัปปณิหิตมูลกปฏิปทา จบ. -----------
[๒๖๙] ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
โยคาวจรบุคคล
เจริญมรรคเป็นโลกุตตระ ฯลฯ
เจริญสติปัฏฐานเป็นโลกุตตระ ฯลฯ เจริญสัมมัปปธานเป็นโลกุตตระ ฯลฯ
เจริญอิทธิบาทเป็นโลกุตตระ ฯลฯ
เจริญอินทรีย์เป็นโลกุตตระ ฯลฯ
เจริญพละเป็นโลกุตตระ ฯลฯ
เจริญโพชฌงค์เป็นโลกุตตระ ฯลฯ
เจริญสัจจะเป็นโลกุตตระ ฯลฯ
เจริญสมถะเป็นโลกุตตระ ฯลฯ
เจริญธรรมเป็นโลกุตตระ ฯลฯ
เจริญขันธ์เป็นโลกุตตระ ฯลฯ
เจริญอายตนะเป็นโลกุตตระ ฯลฯ
เจริญธาตุเป็นโลกุตตระ ฯลฯ
เจริญอาหารเป็นโลกุตตระ ฯลฯ
เจริญผัสสะเป็นโลกุตตระ ฯลฯ
เจริญเวทนาเป็นโลกุตตระ ฯลฯ เจริญสัญญาเป็นโลกุตตระ ฯลฯ
เจริญเจตนาเป็นโลกุตตระ ฯลฯ
เจริญจิตเป็นโลกุตตระ ฯลฯ
อันเป็นเครื่องออกไปจากโลกนำไปสู่นิพพาน
เพื่อละทิฏฐิ เพื่อบรรลุภูมิเบื้องต้น
สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว
บรรลุปฐมฌาน
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. มหานัย ๒๐ จบ. ------------
เจริญฌานเป็นโลกุตตระ
อันเป็นเครื่องออกไปจากโลกนำไปสู่นิพพาน เพื่อละทิฏฐิ เพื่อบรรลุภูมิเบื้องต้น สงัดจากกาม
สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว บรรลุปฐมฌาน
อธิบาย : ข้อความข้างบนนี้
จะใช้แทนด้วยอักษร A
มหานัย ๒๐
สุทธิกปฏิปทา
[๒๖๐] ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
A เป็น ทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ
สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. [๒๖๑] ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน? A เป็นทุกขาปฏิปทาขิปปาภิญญา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ
สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล.
[๒๖๒] ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน? A เป็น สุขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. [๒๖๓] ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
A เป็น สุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. [๒๖๔] ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
โยคาวจรบุคคล เจริญฌานเป็นโลกุตตระ
อันเป็นเครื่องออกไปจากโลกนำไปสู่นิพพาน เพื่อละทิฏฐิ เพื่อบรรลุภูมิเบื้องต้น
บรรลุทุติยฌาน ฯลฯ
บรรลุตติยฌาน ฯลฯ
บรรลุจตุตถฌาน ฯลฯ บรรลุปฐมฌาน ฯลฯ บรรลุปัญจมฌาน
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
เป็นทุกขาปฏิปทาขิปปาภิญญา ฯลฯ
เป็นสุขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา ฯลฯ อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. สุทธิกปฏิปทา จบ. ----------------
สุญญตะ
[๒๖๕] ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน? A ชนิดสุญญตะ ฯลฯ อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ
มีในสมัยนั้น ฯลฯ
สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
โยคาวจรบุคคล เจริญฌานเป็นโลกุตตระ
อันเป็นเครื่องออกไปจากโลกนำไปสู่นิพพาน เพื่อละทิฏฐิ เพื่อบรรลุภูมิเบื้องต้น
บรรลุทุติยฌาน ฯลฯ
บรรลุตติยฌาน ฯลฯ
บรรลุจตุตถฌาน บรรลุปฐมฌาน ฯลฯ
บรรลุปัญจมฌาน ชนิดสุญญตะ ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. สุญญตะ จบ.
--------------
สุญญตมูลกปฏิปทา
[๒๖๖] ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
A ชนิดสุญญตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล.
ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน? A ชนิดสุญญตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาขิปปาภิญญา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน? A ชนิดสุญญตะ
เป็นสุขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีอยู่ในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน? A ชนิดสุญญตะ
เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน? โยคาวจรบุคคล เจริญฌานเป็นโลกุตตระ
อันเป็นเครื่องออกไปจากโลกนำไปสู่นิพพาน เพื่อละทิฏฐิ เพื่อบรรลุภูมิเบื้องต้น
บรรลุทุติยฌาน ฯลฯ
บรรลุตติยฌาน ฯลฯ
บรรลุจตุตถฌาน ฯลฯ บรรลุปฐมฌาน ฯลฯ
บรรลุปัญจมฌาน ชนิดสุญญตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
ชนิดสุญญตะ ฯลฯ
เป็นทุกขาปฏิปทาขิปปาภิญญา ฯลฯ
ชนิดสุญญตะ
เป็นสุขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
ชนิดสุญญตะ
เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล สุญญตมูลกปฏิปทา จบ. ------------
อัปปณิหิตะ [๒๖๗] ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
A ชนิดอัปปณิหิตะ ฯลฯ อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน? โยคาวจรบุคคล เจริญฌานเป็นโลกุตตระ
อันเป็นเครื่องออกไปจากโลกนำไปสู่นิพพาน เพื่อละทิฏฐิ เพื่อบรรลุภูมิเบื้องต้น
บรรลุทุติยฌาน ฯลฯ
บรรลุตติยฌาน ฯลฯ
บรรลุจตุตถฌาน ฯลฯ
บรรลุปฐมฌาน ฯลฯ
บรรลุปัญจมฌาน ชนิดอัปปณิหิตะ ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. อัปปณิหิตะ จบ. -------------- อัปปณิหิตมูลกปฏิปทา [๒๖๘] ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
A ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน? A ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาขิปปาภิญญา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ
สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน? A ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นสุขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน? A ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน? โยคาวจรบุคคล เจริญฌานเป็นโลกุตตระ
อันเป็นเครื่องออกไปจากโลกนำไปสู่นิพพาน เพื่อละทิฏฐิ เพื่อบรรลุภูมิเบื้องต้น
บรรลุทุติยฌาน ฯลฯ
บรรลุตติยฌาน ฯลฯ
บรรลุจตุตถฌาน ฯลฯ
บรรลุปฐมฌาน ฯลฯ
บรรลุปัญจมฌาน ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาขิปปาภิญญา ฯลฯ
ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นสุขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. อัปปณิหิตมูลกปฏิปทา จบ. -----------
[๒๖๙] ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
โยคาวจรบุคคล
เจริญมรรคเป็นโลกุตตระ ฯลฯ
เจริญสติปัฏฐานเป็นโลกุตตระ ฯลฯ เจริญสัมมัปปธานเป็นโลกุตตระ ฯลฯ
เจริญอิทธิบาทเป็นโลกุตตระ ฯลฯ
เจริญอินทรีย์เป็นโลกุตตระ ฯลฯ
เจริญพละเป็นโลกุตตระ ฯลฯ
เจริญโพชฌงค์เป็นโลกุตตระ ฯลฯ
เจริญสัจจะเป็นโลกุตตระ ฯลฯ
เจริญสมถะเป็นโลกุตตระ ฯลฯ
เจริญธรรมเป็นโลกุตตระ ฯลฯ
เจริญขันธ์เป็นโลกุตตระ ฯลฯ
เจริญอายตนะเป็นโลกุตตระ ฯลฯ
เจริญธาตุเป็นโลกุตตระ ฯลฯ
เจริญอาหารเป็นโลกุตตระ ฯลฯ
เจริญผัสสะเป็นโลกุตตระ ฯลฯ
เจริญเวทนาเป็นโลกุตตระ ฯลฯ เจริญสัญญาเป็นโลกุตตระ ฯลฯ
เจริญเจตนาเป็นโลกุตตระ ฯลฯ
เจริญจิตเป็นโลกุตตระ ฯลฯ
อันเป็นเครื่องออกไปจากโลกนำไปสู่นิพพาน
เพื่อละทิฏฐิ เพื่อบรรลุภูมิเบื้องต้น
สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว
บรรลุปฐมฌาน
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. มหานัย ๒๐ จบ. ------------