[๑๙๐] พรหมวิหารฌาน ๔
1. โยคาวจรบุคคล เจริญมรรคปฏิปทา
เพื่อเข้าถึงรูปภูมิ สงัดจากกาม
สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว.
2. ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ
สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล.
อธิบาย : ข้อความข้างบนนี้
ข้อ1.จะใช้แทนด้วยอักษร A
ข้อ2.จะใข้แทนด้วยอักษร B
ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
A บรรลุปฐมฌาน
ที่สหรคตด้วยเมตตา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใดแล้ว B
ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
A บรรลุทุติยฌาน
ที่สหรคตด้วยเมตตา
อยู่ในสมัยใดแล้ว B
ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
A บรรลุตติยฌาน
ที่สหรคตด้วยเมตตา
ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร
และคลายปีติได้อีกด้วย ฯลฯ
อยู่ในสมัยใดแล้ว B
ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
A บรรลุปฐมฌาน
ที่สหรคตด้วยเมตตา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใดแล้ว B
ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
A บรรลุทุติยฌาน
ที่สหรคตด้วยเมตตา
ไม่มีวิตก มีแต่วิจาร
มีปีติและสุขอันเกิดจากสมาธิ
อยู่ในสมัยใดแล้ว B
ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
A บรรลุตติยฌาน
ที่สหรคตด้วยเมตตา
ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร
อยู่ในสมัยใดแล้ว B
ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
A บรรลุจตุตถฌานนั้น
ที่สหรคตด้วยเมตตา
ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร
และคลายปีติได้อีกด้วย ฯลฯ
อยู่ในสมัยใดแล้ว B.
ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
A บรรลุปฐมฌาน
ที่สหรคตด้วยกรุณา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใดแล้ว B
ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
A บรรลุทุติยฌาน ฯลฯ
บรรลุตติยฌานฯลฯ
บรรลุปฐมฌาน ฯลฯ
บรรลุจตุตถฌานนั้น
ที่สหรคต ด้วยกรุณา
อยู่ในสมัยใดแล้ว B.
ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
A บรรลุปฐมญาน
ที่สหรคตด้วยมุทิตา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใดแล้ว B
ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
A บรรลุทุติยฌาน ฯลฯ
บรรลุตติยฌานฯลฯ
บรรลุปฐมญาน ฯลฯ
บรรลุจตุตถฌานนั้น
ที่สหรคตด้วยมุทิตา
อยู่ในสมัยใด B
ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
A บรรลุจตุตถฌาน
ที่สหรคตด้วยอุเบกขา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด B.
พรหมวิหารฌาน ๔ แจกอย่างละ ๑๖
------------------
1. โยคาวจรบุคคล เจริญมรรคปฏิปทา
เพื่อเข้าถึงรูปภูมิ สงัดจากกาม
สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว.
2. ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ
สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล.
อธิบาย : ข้อความข้างบนนี้
ข้อ1.จะใช้แทนด้วยอักษร A
ข้อ2.จะใข้แทนด้วยอักษร B
ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
A บรรลุปฐมฌาน
ที่สหรคตด้วยเมตตา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใดแล้ว B
ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
A บรรลุทุติยฌาน
ที่สหรคตด้วยเมตตา
อยู่ในสมัยใดแล้ว B
ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
A บรรลุตติยฌาน
ที่สหรคตด้วยเมตตา
ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร
และคลายปีติได้อีกด้วย ฯลฯ
อยู่ในสมัยใดแล้ว B
ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
A บรรลุปฐมฌาน
ที่สหรคตด้วยเมตตา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใดแล้ว B
ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
A บรรลุทุติยฌาน
ที่สหรคตด้วยเมตตา
ไม่มีวิตก มีแต่วิจาร
มีปีติและสุขอันเกิดจากสมาธิ
อยู่ในสมัยใดแล้ว B
ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
A บรรลุตติยฌาน
ที่สหรคตด้วยเมตตา
ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร
อยู่ในสมัยใดแล้ว B
ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
A บรรลุจตุตถฌานนั้น
ที่สหรคตด้วยเมตตา
ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร
และคลายปีติได้อีกด้วย ฯลฯ
อยู่ในสมัยใดแล้ว B.
ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
A บรรลุปฐมฌาน
ที่สหรคตด้วยกรุณา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใดแล้ว B
ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
A บรรลุทุติยฌาน ฯลฯ
บรรลุตติยฌานฯลฯ
บรรลุปฐมฌาน ฯลฯ
บรรลุจตุตถฌานนั้น
ที่สหรคต ด้วยกรุณา
อยู่ในสมัยใดแล้ว B.
ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
A บรรลุปฐมญาน
ที่สหรคตด้วยมุทิตา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใดแล้ว B
ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
A บรรลุทุติยฌาน ฯลฯ
บรรลุตติยฌานฯลฯ
บรรลุปฐมญาน ฯลฯ
บรรลุจตุตถฌานนั้น
ที่สหรคตด้วยมุทิตา
อยู่ในสมัยใด B
ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
A บรรลุจตุตถฌาน
ที่สหรคตด้วยอุเบกขา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด B.
พรหมวิหารฌาน ๔ แจกอย่างละ ๑๖
------------------