Skip to main content

เตภูมิกกุศลธรรม ๓ ประเภท

เตภูมิกกุศลธรรม ๓ ประเภท
                     กามาวจรกุศล
[๑๙๓] ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
     กามาวจรกุศลจิต
สหรคตด้วยโสมนัส สัมปยุตด้วยญาณ

เกิดขึ้นเป็นอย่างต่ำ ฯลฯ
เป็นอย่างกลาง ฯลฯ เป็นอย่างประณีต ฯลฯ เป็นฉันทาธิบดี ฯลฯ เป็นวิริยาธิบดี ฯลฯ
เป็นจิตตาธิบดี ฯลฯ เป็นวิมังสาธิบดี ฯลฯ
เป็นฉันทาธิบดีอย่างต่ำ ฯลฯ
เป็นฉันทาธิบดีอย่างกลางฯลฯ
เป็นฉันทาธิบดีอย่างประณีต ฯลฯ
เป็นวิริยาธิบดีอย่างต่ำ ฯลฯ
เป็นวิริยาธิบดีอย่างกลางฯลฯ
เป็นวิริยาธิบดีอย่างประณีต ฯลฯ
เป็นจิตตาธิบดีอย่างต่ำ ฯลฯ
เป็นจิตตาธิบดีอย่างกลางฯลฯ
เป็นจิตตาธิบดีอย่างประณีต ฯลฯ
เป็นวิมังสาธิบดีอย่างต่ำ ฯลฯ
เป็นวิมังสาธิบดีอย่างกลางฯลฯ
เป็นวิมังสาธิบดีอย่างประณีต
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ
 สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล.
     ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
     กามาวจรกุศลจิต
สหรคตด้วยโสมนัส สัมปยุตด้วยญาณ
เกิดขึ้นโดยมีการชักจูง ฯลฯ
สหรคตด้วยโสมนัส วิปปยุตจากญาณ
เกิดขึ้น ฯลฯ
สหรคตด้วยโสมนัส วิปปยุตจากญาณ
เกิดขึ้นโดยมีการชักจูง ฯลฯ
สหรคตด้วยอุเบกขา สัมปยุตด้วยญาณ
เกิดขึ้น ฯลฯ
สหรคตด้วยอุเบกขา สัมปยุตด้วยญาณ
เกิดขึ้นโดยมีการชักจูงฯลฯ
สหรคตด้วยอุเบกขา วิปปยุตจากญาณ
เกิดขึ้น ฯลฯ
สหรคตด้วยอุเบกขา วิปปยุตจากญาณ
เกิดขึ้นโดยมีการชักจูง เป็นอย่างต่ำ​ ฯลฯ
เป็นอย่างกลาง ฯลฯ เป็นอย่างประณีต ฯลฯ เป็นฉันทาธิบดี ฯลฯ เป็นวิริยาธิบดี ฯลฯ
เป็นจิตตาธิบดี ฯลฯ
เป็นฉันทาธิบดีอย่างต่ำ ฯลฯ
เป็นฉันทาธิบดีอย่างกลาง ฯลฯ
เป็นฉันทาธิบดีอย่างประณีต ฯลฯ
เป็นวิริยาธิบดีอย่างต่ำ ฯลฯ
เป็นวิริยาธิบดีอย่างกลาง ฯลฯ
เป็นวิริยาธิบดีอย่างประณีต ฯลฯ
เป็นจิตตาธิบดีอย่างต่ำ ฯลฯ
เป็นจิตตาธิบดีอย่างกลาง ฯลฯ
เป็นจิตตาธิบดีอย่างประณีต
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ
  สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล.
                   กามาวจรกุศล จบ
                        ------------
                รูปาวจรกุศล
[๑๙๔]   ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
     โยคาวจรบุคคล เจริญมรรคปฏิปทา
เพื่อเข้าถึงรูปภูมิ สงัดจากกาม
สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว
บรรลุปฐมฌานที่มีปฐวีกสิณเป็นอารมณ์ ฯลฯ เป็นอย่างต่ำ ฯลฯ เป็นอย่างกลาง ฯลฯ
เป็นอย่างประณีต ฯลฯ เป็นฉันทาธิบดี ฯลฯ เป็นวิริยาธิบดี ฯลฯ เป็นจิตตาธิบดี ฯลฯ
เป็นวิมังสาธิบดี ฯลฯ
เป็นฉันทาธิบดีอย่างต่ำ ฯลฯ
เป็นฉันทาธิบดีอย่างกลาง ฯลฯ
เป็นฉันทาธิบดีอย่างประณีต ฯลฯ
เป็นวิริยาธิบดีอย่างต่ำ ฯลฯ
เป็นวิริยาธิบดีอย่างกลาง ฯลฯ
เป็นวิริยาธิบดีอย่างประณีต ฯลฯ
เป็นจิตตาธิบดีอย่างต่ำ ฯลฯ
เป็นจิตตาธิบดีอย่างกลาง ฯลฯ
เป็นจิตตาธิบดีอย่างประณีต ฯลฯ
เป็นวิมังสาธิบดีอย่างต่ำ ฯลฯ
เป็นวิมังสาธิบดีอย่างกลาง ฯลฯ
เป็นวิมังสาธิบดีอย่างประณีต
 อยู่ในสมัยใด
 ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ
  สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล.
   ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
     โยคาวจรบุคคล เจริญมรรคปฏิปทา
เพื่อเข้าถึงรูปภูมิ
บรรลุทุติยฌาน ฯลฯ บรรลุตติยฌาน​ ฯลฯ บรรลุจตุตถฌาน ฯลฯ บรรลุปฐมฌาน ฯลฯ บรรลุปัญจมฌาน
ที่มีปฐวีกสิณเป็นอารมณ์ ฯลฯ
เป็นอย่างต่ำ ฯลฯ เป็นอย่างกลาง ฯลฯ
เป็นอย่างประณีต ฯลฯ เป็นฉันทาธิบดี ฯลฯ เป็นวิริยาธิบดี ฯลฯ เป็นจิตตาธิบดี ฯลฯ
เป็นวิมังสาธิบดี ฯลฯ
เป็นฉันทาธิบดีอย่างต่ำ ฯลฯ
เป็นฉันทาธิบดีอย่างกลาง ฯลฯ
เป็นฉันทาธิบดีอย่างประณีต ฯลฯ
เป็นวิริยาธิบดีอย่างต่ำ ฯลฯ
เป็นวิริยาธิบดีอย่างกลาง ฯลฯ
เป็นวิริยาธิบดีอย่างประณีต ฯลฯ
เป็นจิตตาธิบดีอย่างต่ำ ฯลฯ
เป็นจิตตาธิบดีอย่างกลาง ฯลฯ
เป็นจิตตาธิบดีอย่างประณีต ฯลฯ
เป็นวิมังสาธิบดีอย่างต่ำ ฯลฯ
เป็นวิมังสาธิบดีอย่างกลาง ฯลฯ
เป็นวิมังสาธิบดีอย่างประณีต
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯอวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ
   สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล.
                   รูปาวจรกุศล จบ
                         ----------
อรูปาวจรกุศล [๑๙๕] ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
โยคาวจรบุคคล เจริญมรรคปฏิปทาเพื่อเข้าถึงอรูปภูมิ เพราะก้าวล่วงรูปสัญญาโดยประการทั้งปวง
เพราะความดับไปแห่งปฏิฆสัญญา
เพราะไม่มนสิการซึ่งนานัตตสัญญา
จึงบรรลุจตุตถฌาน
อันสหรคตด้วยอากาสานัญจายตนสัญญา
ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข เพราะละสุขและทุกข์ได้ เพราะโสมนัสและโทมนัสดับสนิทในก่อน มีสติบริสุทธิ์เพราะอุเบกขา เป็นอย่างต่ำ ฯลฯ
เป็นอย่างกลาง ฯลฯ เป็นอย่างประณีต ฯลฯ
เป็นฉันทาธิบดี ฯลฯ เป็นวิริยาธิบดี ฯลฯ
เป็นจิตตาธิบดี ฯลฯ เป็นวิมังสาธิบดี ฯลฯ
เป็นฉันทาธิบดีอย่างต่ำ ฯลฯ
เป็นฉันทาธิบดีอย่างกลาง ฯลฯ เป็นฉันทาธิบดีอย่างประณีต ฯลฯ
เป็นวิริยาธิบดีอย่างต่ำ ฯลฯ
เป็นวิริยาธิบดีอย่างกลาง ฯลฯ เป็นวิริยาธิบดีอย่างประณีต ฯลฯ
เป็นจิตตาธิบดีอย่างต่ำ ฯลฯ
เป็นจิตตาธิบดีอย่างกลาง ฯลฯ เป็นจิตตาธิบดีอย่างประณีต ฯลฯ
เป็นวิมังสาธิบดีอย่างต่ำ ฯลฯ
เป็นวิมังสาธิบดีอย่างกลาง ฯลฯ เป็นวิมังสาธิบดีอย่างประณีต
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน? โยคาวจรบุคคล เจริญมรรคปฏิปทาเพื่อเข้าถึงอรูปภูมิ เพราะก้าวล่วงอากาสานัญจายตนะ โดยประการทั้งปวง จึงบรรลุจตุตถฌาน
อันสหรคตด้วยวิญญาณัญจายตนสัญญา
ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข ฯลฯ เป็นอย่างต่ำ ฯลฯ
เป็นอย่างกลาง ฯลฯ เป็นอย่างประณีต ฯลฯ
เป็นฉันทาธิบดี ฯลฯ​ เป็นวิริยาธิบดี ฯลฯ
เป็นจิตตาบดี ฯลฯ เป็นวิมังสาธิบดี ฯลฯ
เป็นฉันทาธิบดีอย่างต่ำ ฯลฯ เป็นฉันทาธิบดีอย่างกลาง ฯลฯ
เป็นฉันทาธิบดีอย่างประณีต ฯลฯ
เป็นวิริยาธิบดีอย่างต่ำ ฯลฯ เป็นวิริยาธิบดีอย่างกลาง ฯลฯ
เป็นวิริยาธิบดีอย่างประณีต ฯลฯ
เป็นจิตตาธิบดีอย่างต่ำ ฯลฯ เป็นจิตตาธิบดีอย่างกลาง ฯลฯ
เป็นจิตตาธิบดีอย่างประณีต ฯลฯ
เป็นวิมังสาธิบดีอย่างต่ำ ฯลฯ เป็นวิมังสาธิบดีอย่างกลาง ฯลฯ
เป็นวิมังสาธิบดีอย่างประณีต
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ​ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน? โยคาวจรบุคคล เจริญมรรคปฏิปทาเพื่อเข้าถึงอรูปภูมิ เพราะก้าวล่วงวิญญาณัญจายตนะ โดยประการทั้งปวง จึงบรรลุจตุตถฌาน
อันสหรคตด้วยอากิญจัญญายตนสัญญา
ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข ฯลฯ เป็นอย่างต่ำ ฯลฯ
เป็นอย่างกลาง ฯลฯ เป็นอย่างประณีต ฯลฯ
เป็นฉันทาธิบดีฯลฯ เป็นวิริยาธิบดี ฯลฯ
เป็นจิตตาธิบดี ฯลฯ เป็นวิมังสาธิบดี ฯลฯ
เป็นฉันทาธิบดีอย่างต่ำ ฯลฯ
เป็นฉันทาธิบดีอย่างกลาง ฯลฯ
เป็นฉันทาธิบดีอย่างประณีต ฯลฯ
เป็นวิริยาธิบดีอย่างต่ำ ฯลฯ
เป็นวิริยาธิบดีอย่างกลาง ฯลฯ
เป็นวิริยาธิบดีอย่างประณีต ฯลฯ
เป็นจิตตาธิบดีอย่างต่ำ ฯลฯ
เป็นจิตตาธิบดีอย่างกลาง ฯลฯ
เป็นจิตตาธิบดีอย่างประณีต ฯลฯ
เป็นวิมังสาธิบดีอย่างต่ำ ฯลฯ
เป็นวิมังสาธิบดีอย่างกลาง ฯลฯ
เป็นวิมังสาธิบดีอย่างประณีต
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ​ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ
สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล.
ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน?
โยคาวจรบุคคล เจริญมรรคปฏิปทาเพื่อเข้าถึงอรูปภูมิ เพราะก้าวล่วงอากิญจัญญายตนะ
โดยประการทั้งปวง จึงบรรลุจตุตถฌาน
อันสหรคตด้วยเนวสัญญานาสัญญายตนสัญญา
ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข ฯลฯ เป็นอย่างต่ำ ฯลฯ
เป็นอย่างกลาง ฯลฯ เป็นอย่างประณีต ฯลฯ
เป็นฉันทาธิบดี ฯลฯ​ เป็นวิริยาธิบดี ฯลฯ
เป็นจิตตาธิบดี ฯลฯ เป็นวิมังสาธิบดี ฯลฯ
เป็นฉันทาธิบดีอย่างต่ำ ฯลฯ
เป็นฉันทาธิบดีอย่างกลาง ฯลฯ
เป็นฉันทาธิบดีอย่างประณีต ฯลฯ
เป็นวิริยาธิบดีอย่างต่ำ ฯลฯ
เป็นวิริยาธิบดีอย่างกลาง ฯลฯ
เป็นวิริยาธิบดีอย่างประณีต ฯลฯ
เป็นจิตตาธิบดีอย่างต่ำ ฯลฯ
เป็นจิตตาธิบดีอย่างกลาง ฯลฯ
เป็นจิตตาธิบดีอย่างประณีต ฯลฯ
เป็นวิมังสาธิบดีอย่างต่ำ ฯลฯ
เป็นวิมังสาธิบดีอย่างกลาง ฯลฯ
เป็นวิมังสาธิบดีอย่างประณีต
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ​ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ
สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล.
อรูปาวจรกุศล จบ
------------